ดอกยางรถบรรทุก รถตัก รถไถ มีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร
รวมให้ครบ! วิธีเลือกดอกยางรถบรรทุก รถตัก รถไถ ใช้ถูกงาน ทนทาน คุ้มค่า
บ่อยครั้งที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางรถ หลายท่านอาจนึกถึงขนาดหรือไซส์ของยางที่เหมาะสมกับรถเป็นอย่างแรก แต่จริง ๆ แล้ว “ดอกยาง” ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้หรือเจ้าของรถขนาดใหญ่ ก็จำเป็นต้องเลือกใช้ดอกยางอย่างเหมาะสม เช่น ดอกยางรถบรรทุก ดอกยางรถตัก และดอกยางรถไถ หรือดอกยางรถแทรกเตอร์ เป็นต้น ถึงแม้จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ดอกยางแต่ละแบบที่ไม่เหมือนกัน จะทำให้คุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกันมากเลยทีเดียว
ทำไมถึงต้องเลือก “ดอกยาง” ให้เหมาะกับรถ?
เพราะดอกยางเป็นส่วนของยางที่ต้องสัมผัสถนนตลอดเวลา ทำหน้าที่กระจายแรงและน้ำหนักของรถที่แตกต่างกัน และช่วยในการยึดเกาะถนนขณะรถวิ่ง รวมถึงช่วยรีดน้ำออกจากยางเมื่อรถต้องวิ่งขณะฝนตกหรือบนถนนที่เปียก ดังนั้น การเลือกใช้ดอกยางที่เหมาะสมกับประเภทของรถและลักษณะการใช้งาน ก็จะทำให้การเดินทางเกิดความสะดวก ปลอดภัย ช่วยให้การทำงานคล่องตัว และยังยืดอายุการใช้งานยางได้ด้วย
และเพื่อให้การลงทุนซื้อยางให้รถใหญ่ ทั้งรถบรรทุก รถตัก รถไถหรือรถแทรกเตอร์ ในครั้งต่อไป ได้ทั้งความเหมาะสมกับงาน ทนทาน คุ้มค่าเงิน และที่สำคัญคือความปลอดภัยในการแล้ว มาทำความรู้จักชนิดของดอกยางของรถแต่ละประเภทกันเลย
รู้จักกับ “ดอกยางรถบรรทุก” 4 ประเภท ความแตกต่าง และความเหมาะสมในการเลือกใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกสินค้า รถบรรทุกโดยสาร รถเทรลเลอร์ หรือรถใหญ่ประเภทอื่น ๆ ล้วนต้องเลือกใช้ยางที่มีดอกยางเหมาะสมกับประเภทงานและลักษณะพื้นที่ที่เดินทาง โดยดอกยางรถบรรทุก 4 ประเภท มีดังนี้
- ดอกยางรถบรรทุกประเภทบล็อก (BLOCK PATTERN)
ด้วยรูปทรงของดอกยางที่มีความเป็นเหลี่ยมหรือมนกลมคล้ายก้อนอิฐ และการวางเรียงกันบนหน้ายางแบบมีช่องว่างจะคล้ายกับอิฐบล็อกทางเดิน จึงเป็นจุดที่ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นและแยกประเภทดอกยางแบบบล็อกนี้ได้ง่ายขึ้น
ดอกยางแบบบล็อกนั้นมีประสิทธิภาพในการตะกุยสูง สามารถใช้งานกับรถบรรทุกที่ต้องลุยบนสภาพพื้นผิวถนนแบบออฟโรด ไม่ว่าจะเป็นทราย โคลน หรือลูกรัง ก็สามารถยึดเกาะผิวถนนแน่น เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจให้ผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
- ดอกยางรถบรรทุกประเภทดอกละเอียด หรือดอกสร้อย (RIB PATTERN)
จุดเด่นที่สังเกตเห็นได้ชัดของดอกยางรถบรรทุกแบบดอกละเอียดก็คือ ร่องยางที่เป็นแนวโค้งซิกแซก หรือเป็นแถวยาวที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมเรียงยาวตามแนวเส้นรอบวงยาง และด้วยรูปลักษณ์ของร่องยางที่มีความตื้น จึงทำให้มีคุณสมบัติที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ง่าย ลดต้นเหตุของปัญหาการระเบิดของยางรถ และสามารถยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดี ช่วยควบคุมการเลี้ยวและป้องกันการลื่นไถลบนพื้นเปียกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยางรถแบบดอกละเอียดนี้นิยมนำไปใช้กับรถบรรทุกโดยสารเป็นส่วนใหญ่
-
ดอกยางรถบรรทุกประเภทบั้ง (LUG PATTERN)
ลักษณะของดอกยางรถบรรทุกแบบบั้ง จะเป็นร่องยาวแนวขวางเรียงกันตามแนวเส้นรอบวงยางคล้ายกับรอยบั้งปลา รวมถึงร่องยางของดอกยางค่อนข้างลึก ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้มีแรงกรุยสูงในการวิ่งออกตัว เหมาะกับการใช้งานบนเส้นทางที่มีความขรุขระ ถนนลูกรัง หรือการขับทางเรียบในอัตราความเร็วปานกลางถึงความเร็วต่ำ เช่น การขับขึ้นภูเขา หรือทางชัน เป็นต้น อีกทั้งดอกยางแบบบั้งยังมีความทนทานมาก ด้วยแก้มยางที่หนาทำให้ลดความเสียหายจากการบาดตำได้ จึงมีอายุการใช้งานที่นานกว่าดอกยางประเภทอื่น ๆ อีกด้วย
สำหรับประเภทของรถที่เหมาะกับการใช้งานดอกยางแบบบั้ง เช่น รถจี๊ป รถบรรทุกดัมพ์ รถบรรทุกสิบล้อขนาดใหญ่ โดยใช้ในตำแหน่งล้อหลังและเทรลเลอร์ เป็นต้น
-
ดอกยางรถสิบล้อประเภทผสม (RIB-LUG PATTERN)
เป็นการนำดอกยางประเภทดอกละเอียดมาผสมผสานกับดอกยางประเภทบั้ง โดยดอกยางแบบดอกละเอียดจะเป็นลายอยู่บริเวณตรงกลางหน้ายาง ส่วนดอกยางแบบบั้งจะเรียงตัวกันบริเวณเส้นรอบวงของขอบยางทั้งสองด้าน และจากคุณสมบัติของดอกยางทั้้ง 2 ประเภทนี้ จึงทำให้เกิดประสิทธิภาพทั้งแรงในการกรุยถนน ไปพร้อม ๆ กับการยึดเกาะถนนได้ดี อีกทั้งยังสามารถใช้งานกับรถบรรทุกได้ทั้งบนพื้นถนนทางเรียบ วิ่งระยะไกลบนทางหลวง ตลอดจนทางขรุขระได้
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับรถบรรทุกหรือรถเทรลเลอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ดอกยางแบบผสมนี้สามารถควบคุมทิศทางได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลได้มากขึ้นอีกด้วย
-
-
เลือก “ดอกยางรถตัก” กับประเภทการใช้งานที่แตกต่างอย่างลงตัว
สำหรับรถตักที่มีการใช้งานทั่วไป เช่น การตักหิน ดิน ทราย ฯลฯ แม้จะไม่ได้ใช้ในการขนย้ายระยะไกลเท่ารถบรรทุก แต่ด้วยน้ำหนักของตัวรถตักเอง รวมถึงวัตถุที่ถูกตักมาบรรจุบนตัวรถแล้ว ก็ทำให้ภาระในการรองรับน้ำหนักทั้งหมดลงมาอยู่ที่ยางด้วย ดังนั้น การเลือกดอกยางรถตักจึงจำเป็นต้องมีความเหมาะสมกับประเภทของการใช้งานเช่นกัน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งานยางได้อย่างคุ้มค่า โดยประเภทของดอกยางรถตักมีดังนี้
- ดอกยางรถตักประเภท L2
เป็นดอกยางที่เหมาะสำหรับรถตักทั่วไปที่ใช้งานบนพื้นที่อ่อนนุ่ม เช่น โคลน ทราย เพราะให้แรงฉุดสูง พร้อมแรงสะบัดเศษหิน ดิน ทรายได้เป็นอย่างดี
- ดอกยางรถตักประเภท L3
สำหรับดอกยางชนิดนี้จะมีความทนทานมากกว่าชนิดแรก จึงสามารถใช้งานกับรถตักที่ต้องทำงานบนพื้นที่ขรุขระ เช่น การใช้งานบนพื้นกรวด และหิน
-
ดอกยางรถตักประเภท L5 หรือ L5S
จุดเด่นของดอกยางรถตักประเภทนี้คือ ดอกยางจะมีความลึกมาก เหมาะสำหรับการใช้ในงานตักหนัก ๆ เช่น ในเหมืองขนาดใหญ่ แม้จะมีราคาสูงกว่าดอกยางรถตักแบบ L2 และ L3 แต่เมื่อเทียบด้านความทนทาน และอายุการใช้งานที่ใช้ได้นานกว่าแล้ว นับว่าคุ้มค่ามากกว่าแน่นอน
ทำนา สวน หรือไร่ ก็ต้องเลือก “ดอกยางรถไถ และดอกยางรถแทรกเตอร์” ให้เหมาะกับพื้นที่
แม้ว่าดอกยางรถไถ และดอกยางรถแทรกเตอร์ที่มักใช้ในพื้นที่การเกษตร เช่น การทำนา ทำไร หรือทำสวนต่าง ๆ จะมีลักษณะเด่น คือ เป็นดอกยางรูปก้างปลา ที่สานไขว้สองแถวไปมา ซึ่งจะช่วยให้เกิดแรงในการตะกุยดิน ทราย หรือโคลนได้เป็นอย่างดี แต่ดอกยางของรถไถและรถแทรกเตอร์ก็จะถูกแบ่งตามประเภทความลึก เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ต่างกัน ดังนี้
- ดอกยางรถไถประเภทดอกยางลึก
จะมีหน้าสัมผัสของยางที่ห่าง และมีขนาดดอกยางสูงมาก จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ในงานทำนา ลุยโคลนลึก เพราะดอกยางช่วยให้เกิดแรงในการตะกุยและสะบัดดินโคลนได้ดี ทำให้รถไม่ติดหล่ม แต่ในทางกลับกันก็ไม่เหมาะกับการนำไปใช้บนพื้นดินแข็ง หรือบนถนนพื้นผิวเรียบ
- ดอกยางรถไถประเภทดอกยางตื้น
แม้จะมีดอกยางที่ไม่สูงเท่ากับดอกยางรถไถแบบลึก แต่ก็ยังคงมีลักษณะลายดอกยางที่เป็นรูปก้างปลาสานไขว้ ซึ่งทำให้สามารถออกแรงกรุยดินได้ทั้งพื้นดินแห้งและเปียก ที่ไม่ถึงขั้นเป็นโคลนเลน ดอกยางแบบตื้นจึงเหมาะกับการนำไปใช้ในงานไร่ งานสวน เช่น งานพรวนปรับหน้าดิน ไถรากไม้ ตอไม้ รวมถึงใช้วิ่งบนท้องถนนได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมียางรถไถดอกเรียบ แบบ 2 ร่อง และ 3 ร่อง ซึ่งใช้กับรถไถล้อหน้าและรถแทรกเตอร์สำหรับลากจูง มากกว่านำไปใช้ในงานไถพรวนดิน เพราะล้อที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นผิวเรียบ ช่วยให้บังคับเลี้ยวรถได้ง่าย จึงเหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนทั่วไปมากกว่า
และด้วยเทคนิคในการเลือกดอกยางรถบรรทุก ดอกยางรถตัก และดอกยางรถไถ ทั้งหมดข้างต้นนี้ จะช่วยให้ทุกท่านสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อยางรถครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา เพื่อให้การเดินทางปลอดภัย และการทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น และส่งผลให้การลงทุนเลือกซื้อในแต่ละครั้งคุ้มค่ามากขึ้นด้วย หรือหากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์ประเภทต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ
Tel : 081 955 0826
E-Mail : chaichod999@gmail.com
Line : @chaichod