วิธียืดอายุการใช้ยางรถยนต์ เพื่อการใช้งานได้อย่างยาวนาน

8 วิธียืดอายุยางรถยนต์ ยางรถบรรทุก อย่างง่ายๆ

คุณเคยได้ยินเรื่องเล่าที่ว่า “อายุการใช้งานยางรถยนต์มีอายุเพียง 2 ปี เท่านั้น” ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะ อายุการใช้งานของยางนับตั้งแต่ถูกผลิต อยู่ที่ 6 ปี ซึ่งไม่ถือว่านานไป สำหรับยางที่มีคุณภาพสูงพอ สิ่งที่ใช้กำหนดวัดค่า ว่า "ยางรถยนต์" ถึงเวลาต้องปลดประจำการเปลี่ยนชุดใหม่ มีอยู่ 3 ประการดังนี้

• ความลึกของดอกยาง สิ่งนี้มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยเมื่อขับบนถนนเปียก เพราะต้องช่วยรีดน้ำ เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้ดี ค่าที่เหมาะสมดอกยาง เหลือไม่ควรต่ำกว่า 3 มม. และความลึกของดอกยางใหม่เอี่ยมจะอยู่ประมาณ 8-9 มม.
  
  
• ความชำรุดที่ส่งผลถึงโครงสร้างของยาง เช่น ถูกของมีคมบาดเป็นแผลใหญ่ หรือโครงสร้างช้ำจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ปีนขอบทางเท้าอย่างแรง จนขอบกระทะล้อชำรุด ซึ่งหมายความว่า โครงสร้างของหน้ายางโดยเฉพาะแก้มยางต้องบอบช้ำมากอย่างแน่นอน หรือถูก "บด" จากการขับโดยไม่มีลมยางในระยะทางไกล ลักษณะเช่นนี้แสดงว่า ไม่สามารถใช้งานต่อได้อย่างปลอดภัย
  
  
• อายุของยาง ถ้านับตั้งแต่ถูกผลิต ไม่ควรเกิน 6 ปี ซึ่งระยะเวลานี้ไม่ถือว่านานมากสำหรับยางที่มีคุณภาพสูงพอ ถ้ายางของคุณไม่เข้าข่ายนี้ ก็ไม่ต้องกังวลไป แม้ใช้งานมาหลายหมื่นกิโลเมตรแล้วก็ตาม
  
  

8 วิธียืดอายุยางรถยนต์ ยางรถบรรทุก อย่างง่ายๆ

ยางรถยนต์ แม้จะเป็นสิ่งที่อยู่ล่างสุดของรถยนต์ แต่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่คอยดูแลและประคองชีวิตของเราและคนที่ร่วมเดินทางไปกับเราตลอดเส้นทาง แล้วถ้ายิ่งเดินทางไกลเท่าไหร่ก็มีโอกาสเกิดปัญหาและเสื่อมสภาพหรือสึกหรอได้มากขึ้นเท่านั้น แต่จะเสื่อมช้าหรือเร็ว ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับผู้ขับและการดูแลรักษา ดังนั้น ลองทำตาม 7 วิธีง่ายๆ ต่อไปนี้เพื่อดูแลและยืดอายุการใช้งานยางรถยนต์ให้อยู่ให้นานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

1. 1. 1. เติมลมยางให้พอดี เติมลมตามอัตราที่เขียนในคู่มือรถยนต์ ซึ่งเป็นอัตราที่ดีที่สุด ถ้าไม่ได้ใช้ยางรถยนต์ขนาดเดียวกับยางที่ติดตั้งมาของรถรุ่นนั้น ให้ขอคำแนะนำจากผู้ผลิตยางหรือร้านจำหน่ายยางที่ได้มาตรฐานว่า ควรสูบลมยางที่อัตราเท่าไร ในส่วน ยางอะไหล่ ควรเติมลมให้มากกว่ามาตราฐาน 3 - 4 ปอนด์ และเมื่อนำมาใช้งาน ก็ปล่อยให้เป็นความดันปรกติ
         
         
      2.  เช็คลมยางสม่ำเสมอ ตรวจเช็คลมยางอาทิตย์ละครั้ง หรือทุกครั้งก่อนเดินทาง โดยตรวจในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ เพราะถ้าตรวจเมื่อใช้รถไปแล้วหรือยางมีความร้อน ความดันภายในยางจะสูงกว่าปกติและไม่ใช่ค่าที่ใช้วัดตามมาตราฐาน
         
         
      3.  สลับยาง เพื่อให้ยางทุกเส้นมีการสึกเท่ากัน ควรสลับยางทันทีที่ครบ 10,000 กิโลเมตรแรก และอย่าลืมปรับระดับความดันลมยางให้ถูกต้อง ในกรณีที่สลับยางล้อหน้ากับล้อหลัง เพราะค่าความดันลมยาง หน้า-ล้อ ตั้งค่าต่างกัน
         
         
         
          
      4. ถ่วงล้อ ถ้ายางรถยนต์แต่ละข้างกระจายน้ำหนักไม่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดอาการสั่นขณะรถวิ่ง จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของยาง ระบบช่วงล่าง รวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่
         
         
      5. ปรับตั้งศูนย์ล้อ รถที่มีปัญหาศูนย์ล้อไม่ตรง เช็คง่าย ๆ เมื่อรถวิ่งทางตรง ลองปล่อยพวงมาลัย ถ้ารถวิ่งเบี่ยงขึ้น แปลว่า ศูนย์ล้อไม่ตรง จะทำให้ยางเกิดการสึกหรอผิดรูป
         
         
      6. ใช้ยางให้ถูกประเภท ก่อนซื้อยางให้คิดถึงสภาพถนนที่ขับขี่เป็นประจำ เช่น วิ่งในเมือง-ทางเรียบ ชอบออกต่างจังหวัด-ทางขรุขระ วิ่งภาคใต้ฝนตกบ่อย การเลือกยางที่เหมาะกับสภาพถนน จะทำให้ยางมีอายุการใช้งานมาก และช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย
         
         
      7. นิสัยการขับรถ ควรเลี่ยงออกรถและหยุดรถอย่างกะทันหัน, หักเลี้ยวอย่างรุนแรง, ขับรถปีนขอบถนน, ขับเบียดฟุตบาท, ขับโดยไม่หลบหลุม ก้อนหิน หรือสิ่งกีดขวาง ถ้าขับอย่างทีว่ามา ดอกยางบอกลาล้อก่อนวัยอันควรแน่นอน
         
         
      8. ไม่จอดรถทิ้งไว้นานๆ แต่หากจำเป็นให้เติมลมยางมากกว่าปกติ 5-10 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว การจอดทิ้งไว้นานเกิน 1 เดือนจะทำให้ยางไม่คืนตัว เนื่องจากนํ้าหนักของรถตกไปอยู่ที่จุดๆ เดียวของยางแต่ละเส้น ทำให้ยางส่วนนั้นยุบ และไม่เป็นวงกลม ดังนั้นคุณควรขยับรถเพื่อให้หน้ายางส่วนอื่นสัมผัสพื้นบ้าง และหากจะต้องจอดนานกว่า 3 เดือน จริงๆ ถ้าเป็นไปได้ให้ยกรถตั้งบนขาตั้งยกรถให้ล้อลอยทั้งสี่ล้อ เพื่อให้ล้อไม่ต้องรับนํ้าหนักของรถ
         
         

กรณีเกิดยางรถยนต์ระเบิด

ในการขับรถบนท้องถนนที่มีความเร็วสูงอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ก็ ยางรถยนต์ระเบิด ขึ้นได้หากยางรถยนต์ไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ยางรถระเบิด มีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ขอบอกว่าไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เพียงแต่ต้องได้รับการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเราสามารถดูแลป้องกันได้ด้วยตัวเอง วันนี้เราจะมาดูสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ระเบิดกันว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง รวมถึงวิธีสังเกตยางรถยนต์ และ วิธีป้องกันรับมือเมื่อยางระเบิดเราจะปฏิบัติตัวอย่างไร

1. เกิดจากการใช้ยางหมดอายุจากการใช้งาน เช่น แก้มยางมีรอยแตกลายงา บวม ดอกยางหมดสภาพ หรือ ยางเก่าเก็บมาก ๆ หรือ ใช้ยางเปอร์เซ็นมาใช้ทดแทน เพราะไม่อยากเปลี่ยนยางใหม่
   
   
2. ยางมีความร้อนสูงจัด เนื่องจากอาการเบรกติดที่ล้อใดล้อหนึ่งและอาจทำให้เกิดไฟลุกได้
   
   
3. สูบลมยางไม่สมดุล ไม่ถูกต้องตามขนาดของลมยาง หรือปล่อยให้ยางรั่วยางแบนโดยไม่เติมลมยางอย่างสม่ำเสมอ
   
   
4. ใช้ความเร็วในการขับรถเกินที่ความเร็วของยางกำหนดพิกัดไว้
   
   
5. รถบรรทุกน้ำหนักมากเกินที่ค่ากำหนดไว้ และฝืนขับรถด้วยความเร็วสูงต่อไป
   
   

หลายคนคงสงสัยกับคำว่ายางเปอร์เซ็นต์ หมายถึง ยางที่ใช้งานแล้ว โดยร้านค้ายางจะซื้อต่อมาจากผู้ที่มาเปลี่ยนยางใหม่ จำนวนเปอร์เซ็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสึกของดอกยาง ซึ่งหากดอกยางตื้นมาก ๆ ก็ไม่ควรใช้ต่อไป เพราะจะทำให้อันตรายมาก เพราะไม่มีดอกยาง หรือลายยางมากพอที่จะรีดน้ำออกได้ ขณะที่ขับตอนฝนตก ทำให้ยางไม่เกาะถนนและลื่นไถลได้ง่ายเมื่อเวลาเราเบรกรถ และถ้าคุณอ่านมาถึงตอนนี้ เราอยากจะบอกว่าคุณจะดูแลยางรถยนต์ได้เหนือกว่าใคร ถ้าได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา อย่าง บริษัท ชัยโชติรวมยาง จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ขายส่งยางรถทุกประเภททั้งแบรนด์ไทยและยางนำเข้าจากโรงงานผลิตยางรถยนต์ เราพร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ ทั้งร้านขายส่งยางรถยนต์ ร้านขายส่งยางรถบรรทุก ทั้งร้านขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น ยางรถยนต์ทั่วไป ยางรันแฟลต ยางรถบรรทุก ยางรถฟอล์คลิฟท์ ยางรถโดยสาร ยางรถกอล์ฟ ยางรถตัก ยางรถไถ รวมไปถึงยางรถเกษตรต่าง ๆ จากยี่ห้อชั้นนำอาทิ ยาง bridgestone ยาง yokohama ยาง goodyear ยาง hankook ทั้งขายปลึก ขายส่งยาง โดยเรามีความเชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ และด้านการบริการซ่อมบำรุง คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับบริการและคำแนะนำอย่างน่าประทับใจจากเรา

Tel : 081 955 0826
E-Mail : chaichod999@gmail.com
Line : @chaichod