ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? ยางรถยนต์ประเภทไหนดี?
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? ยางรถยนต์ประเภทไหนดี?

 

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? ยางรถยนต์ประเภทไหนดี?




รู้ความแตกต่างของยางรถแต่ละประเภท

 

ความแตกต่างของประเภทยางรถยนต์

หลายคนคงมีความสงสัยว่า ทำไมยางรถยนต์ต้องมีหลายประเภทให้งงวุ่นวายทั้งที่ ก็ใช้ขับเคลื่อนเหมือนกัน ความแข็งแรงของยางมองจากภายนอกก็แข็งแกร่งแล้ว แต่ทำไมต้องแยกประเภท และแยกยี่ห้อ ยิ่งโดยเฉพาะเจ้าของรถมือใหม่ หรือเจ้าของรถที่เป็นผู้หญิง ต้องเกิดการลังเลแน่ๆ ว่า ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน หรือยางของรถแต่ละประเภทต้องใช้แบบไหน วันนี้เรามีคำตอบ

จุดเด่นของยางแต่ละแบรนด์

ยาง yokohama : จุดเด่นของยางโยโกฮาม่า ยางรถยนต์พรีเมี่ยม ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสุนทรีย์ในการขับ เทคโนโลยียึดเกาะถนน แข็งแกร่ง ลดเสียงรบกวนและประหยัดน้ำมัน

ยาง goodyear : จุดเด่นของยางกู๊ดเยียร์ การรีดน้ำที่ดีเมื่อลุยฝน ทนทานประหยัดเชื้อเพลิง ขับนุ่มนวลแถมไร้เสียง

ยาง hankook : จุดเด่นของยางฮันคุก เป็นยางรถยนต์ราคาถูก เน้นขับขี่สนุกสไตล์สปอร์ต มีสารประกอบซิลิกา เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ส่งแรงบิดถึงพื้น เบรกได้ดีทั้งพื้นถนนเปียกและแห้ง

ยาง bridgestone : จุดเด่นของยางบริสโตน ชื่อเสียงยาวนาน เป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นยางเพิ่มสมรรถนะ ประหยัดเชื้อเพลิง ความคุ้มค่ากับราคา อายุการใช้งานยาวนานและเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรมทางเลือก ไม่ว่าตอนนี้คุณจะลังเลหรือสับสนในการเลือกยี่ห้อ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งถ้าสนใจจะติดต่อซื้อยางรถยนต์ราคาถูกกับเรา ทางเราก็มีผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการผ่าน Live chat ให้ตลอดเวลา


ความแตกต่างของยางแต่ละประเภท

ไม่ใช่ยางรถยนต์จะใส่ได้กับรถทุกประเภท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและ เหมาะสมควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นดังนี้

ยางรถยนต์ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ จะมีความต่างกันที่ดอกยาง ควรเลือกใช้อย่างถูกประเภท ประเภท Highway Terrain ตัวย่อ H/T จะเป็นยางที่นิยมมากที่สุด จะมีดอกยางแบบละเอียด เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป และเป็นมาตรฐานสำหรับรถใหม่


ประเภท All Terrain ตัวย่อ A/T นิยมกันในหมู่ของรถกระบะ มีดอกยางขนาดใหญ่ ยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวขุขระ เพราะลักษณะของรถกระบะจะเป็นการเน้นลุย บรรทุกของ มีโครงสร้างแข็งแรงกว่ายาง H/T แต่ถ้านำมาวิ่งบนพื้นเรียบจะมีเสียงดังกว่า

ประเภท Mud Terrain ตัวย่อ M/T ออกแบบมาเพื่อรถสายลุยแบบออฟโรด โครงสร้างแข็งแรงกว่า 2 ตัวแรกที่กล่าวมา มีดอกยางเป็นดอกบล็อก ประสิทธิภาพสูงในการลุยโคลน หิน หรืออุปสรรค นิยมในหมวดขับเคลื่อน 4 ล้อ


ยางรันแฟลต หรือยางรถซุปเปอร์คาร์

จะต้องมีรายละเอียดที่มากกว่ายางรถยนต์ทั่วไป อย่าง ยางBridgestone ที่มีการออกแบบดอกยางด้านในพิเศษเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะขับขี่บนสภาพพื้นถนนที่เปียก ซึ่งการเลือกยางสำหรับรถซุปเปอร์คาร์ หรือ ยางรถยนต์ทักประเภท ต้องใส่ใจถึงสมรรถนะบนถนนเปียกและ สมรรถนะบนถนนแห้ง การทำงานของยางรถยนต์ ด้านในจะเป็นจุดทำงานบนสภาพถนนเปียก ส่วนยางด้านนอกจะเป็นการทำงานบนพื้นถนนแห้ง



ตัวอย่างยาง Bridgestone สำหรับรถซุปเปอร์คาร์

POTENZA S001 RFT ให้สัมผัสนุ่มนวลใหล้ดคียงกับยางเรเดียล ออกแบบดอกยางพิเศษ ให้ความสำคัญกับดอกยางทั้งด้านนอกด้านใน เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยที่สุดบนทุกพื้นสภาพถนน

POTENZA RE050 RFT
เอกลักษณ์รุ่นนี้ออกแบบดอกยางแบบไม่สมมาตร เพิ่มประสทธิภาพการยึดเกาะพื้นถนน ควบคุมรถได้แม่นยำ เพราะร่องดอกยางค่อนข้างกว้ง ยึดเกาะพื้นถนนเปียกได้ดี

TURANZA ER300 RFT ถ้าขับด้วยความเร็วสูงจะไม่เกิดการระเบิดของยาง ควบคุมการทรงตัวได้ดีแม้สูญเสียความดันลงยาง ประหยัดน้ำมัน เพราะยางทำให้รถมีน้ำหนักเบาลง ประหยัดพื้นที่ไม่จำเป็นต้องมียางอะไหล่


ยางรถโฟล์คลิฟท์


มีชื่อทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ถูกออกแบบเพื่อทุ่นแรงยก ลดอัตราการจ้างพนักงาน และประหยัดเวลาการทำงาน รถโฟล์คลิฟท์ แบ่งรูปแบบการขับเคลื่อนเป็น 2 ประเภท

1.ขับเคลื่อนโดยใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง

2.ขับเคลื่อนโดยใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

รถโฟล์คลิฟท์เป็นรถประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งยางรถโฟล์คลิฟท์แบ่งเป็น ยางเติมลมและยางตัน

ความแตกต่างระหว่างยางลมและยางตัน

ยางชนิดเติมลม : ไม่มีคุณสมบัติป้องกันการฉีกขาด ไม่ป้องกันวัตถุแหลมคม ที่ทำให้เกิดยางรั่ว ต้องคอยดูแลสม่ำเสมอ หายางได้ทั่วไปแต่ง่ายและเสี่ยงต่อการระเบิด เมื่อถูกเสียดสีหนักๆ อายุการใช้งานน้อย

ยางตัน : ประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา เพราะ ไม่ต้องดูแลมาก และเปอร์เซ็นการรั่วของยางเกิดน้อยนอกจากมีคนมาทำลายยาง ยางตันมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการฉีกขาด และสัมผัสการขับแบบนุ่มนวล เสริมการใช้งานให้ปลอดภัย อายุการใช้งานนานกว่าแบบเติมลม


ยางรถบรรทุก


รถบรรทุกแต่ละประเภทก็ทำหน้าที่ต่างกัน ทั้งบรรทุกหินทราย บรรทุกสินค้า แต่ละอย่างก็ต้องใช้ล้อยางที่มีประสิทธิภาพต่างกัน ดอกยางรถบรรทุกก็แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1.ดอกยางบล็อก มีหน้ายางคล้ายก้อนอิฐ ลักษณะเหลี่ยมหรือมน ใช้ได้ทุกพื้นสภาพถนนไม่ว่าจะเป็นโคลน ทราย เป็นยางที่เกาะพื้นถนนได้ดีมาก

2.ยางดอกละเอียด ลักษณะร่องคดโค้ง เป็นแนวแถว ร่องยางออกแบบมาช่วยระบายความร้อน ลดการเกิดระเบิดของยางยนต์ ป้องการลื่นไถ ช่วยบังขับเลี้ยวได้ง่าย จะพบเห็นล้อดอกยางประเภทนี้กับรถโดยสาร เพราะเกาะถนนได้ดี

3.ดอกยางบั้ง มีลักษณะเป็นร่องยาวแนวขวางแบบรอยบั้งปลา โดยร่องยางมีความลึก เป็นยางชนิดที่ใช้ทนทานที่สุด เหมาะกับรถจิ๊ป รถบรรทุกขนาดใหญ่ ใช้วิ่งในอัตราความเร็วปานกลางถึงต่ำ ต้องการความทนทาน หรือวิ่งบนถนนนอกทางทางหลวง ควรใช้ล้อยางประเภทนี้



4.ดอกยางผสม เป็นดอกยางที่ผสมระหว่าง ดอกยางละเอียดและดอกยางบั้ง มีลักษณะตรงกลางเป็นดอกยางแบบละเอียด และด้านซ้าย-ขวา เป็นดอกยางแบบบั้ง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาแรงกรุย ถึงแม้ถนนขุขระก็วิ่งได้ดี ใช้วิ่งบนเส้นทางระยะยาว และนิยิมใส่ยางประเภทนี้ไว้ที่ล้อหลังมากกว่า เหมาะสำหรับรถที่ใช้ความเร็วระดับปานกลาง

และไม่ว่าจะเป็นยางบริสโตน ยางกู๊ดเยียร์ ยางโยโกฮาม่า หรือ ยางฮันคุก ต้องมีประสิทธิภาพ สมรรถนะที่ยึดเกาะถนนได้ดีเป็นหลัก เพื่อความปลอดภัยและการเลือกดอกยางก็ควรใช้ให้ถูกประเภทไม่ใช่เห็นยางราคาถูกแล้วจะเลือกแบบไหนก็ได้


ยางรถไถ หรือยางรถแทรกเตอร์

มีลกษณะเป็นแบบก้างปลา คือลักษณะสานไขว้ไปมา ออกแบบมาสำหรับใช้ทำไร่ไถนา ทำสวนปาล์ม โดยแบ่งดอกยางออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทใส่ความพิเศษลงไปต่างกัน

ประเภทดอกยางลึก
มีขนาดดอกยางสูงมากและหนา ดอกยางลึกเหมาะสำหรับการทำนาแบบโคลนลึก เพราะตัวดอกยางที่ลึกจะทำหน้าที่ออกแรงกรุยโคลน ขณะติดหล่มโคลนก็เกิดแรงสะบัดได้ดี ซึ่งไม่เหมาะสำหรับใช้บนพื้นไร่นา ดินแห้งแข็ง

ประเภทดอกยางตื้น ตามแนวถนนต่างจังหวัด จะพบชาวไร่ชาวสวนนำรถไถ่ประเภทยางแบบตื้นมาวิ่งบนท้องถนน ยางรถไถแบบดอกยางตื้น ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับพื้นนาที่เป็นโคลนสูง แต่มีแรงกรุยโคลนได้ดี เช่นเดียวกัน เหมาะกับการปรับหน้าดิน พรวนดิน



ยางรถตัก

การเลือกยางให้เหมาะสม ช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายการดูแล ประเภทของยางจะมี 2 ชนิดคือ ยางเรเดียลและยางผ้าใบ ส่วนความต่างนั้น ยางเรเดียลจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่า แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการตักได้ดี เนื่องจากให้แรงฉุดที่ดีและมีน้ำหนักเบากว่ายาผ้าใบ จึงมีส่วนช่วยประค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าเป็นยางผ้าใบจะมีการสะสมความร้อน เสี่ยงยางระเบิดได้เสี่ยงอันตรายกับผู้ใช้งานและเพิ่มค่าใช้จ่ายการดูแลมาก เพราะยางมีอายุการใช้งานสั้น

 



ประเภทดอกยางของรถตัก

ดอกยาง L2 : เหมาะสำหรับการใช้บนพื้นที่อ่อนนุ่ม เช่น โคลน เพราะให้แรงฉุด แรงสะบัดเศษหินดิน ทราย ได้ดี
ดอกยาง L3 : เหมาะสำหรับขับบนพื้นผิวขุขระ เพราะ ล้อทนทานต่อกรวดหิน
ดอกยาง L5 หรือ L5S เหมาะสำหรับรถตักที่ใช้งานในเหมืองขนาดใหญ่ เนื่องจากดอกยางมีขนาดลึก อายุการใช้งานยาวนาน ทนทาน แต่จะมีราคาแพงกว่าดอกยางแบบ L2 หรือ L3 แต่ถ้าลองหักลบกับการใช้งานแล้วก็คุ้มค่ากว่า ที่เราจะมานั่งเปลี่ยนยางกันหลายๆ ครั้ง



ยางรถกอล์ฟ

ถ้าพูดถึงรถกอล์ฟ สมัยก่อนเราจะคุ้นว่ารถกอล์ฟต้องวิ่งในสนามกอล์ฟ แต่สมัยนี้ถูกนำมาปรับเปลี่ยนตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ทำให้การเลือกใช้ล้อยางก็แต่ต่างกันบอกไป ซึ่งล้อแต่ละประเภทก็แยกจำนวนชั้น จำนวนหน้ากว้างต่างกัน ดอกยางของรถกอล์ฟจะมี 2 ประเภท คือ แบบ ลายหยัก และแบบเกลี้ยง ตัวแบบเกลี้ยงเราจะเห็นกันตามสนามกอล์ฟวิ่งบนพื้นทราย พื้นหญ้าได้ดี ขนาดขอบยางก็จะแบ่งเป็น 6” 8” 10” 12”

ยางรถกอล์ฟจะมีแบบ 4 ชั้น และ 6 ชั้น ถ้าเน้นวิ่งในสนามกอล์ฟและมีจะนวนที่ 2-4 ที่นั่ง จะใช้ตัว 4 ชั้นแต่ถ้าเป็นรถกอล์ฟที่วิ่งตามโครงการบ้ายจัดสรร คอนโด สนามบิน จะใช้เป็น 6 ชั้น เป็นรถกอล์ฟขนาด 4-6 ที่นั่งขึ้นไป

 

 
      บริษัท ชัยโชติรวมยาง จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ขายส่งยางรถทุกประเภททั้งแบรนด์ไทย-และยางนำเข้า เราพร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ ทั้งร้านขายส่งยางรถยนต์ ร้านขายส่งยางรถบรรทุก ทั้งร้านขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น ยางรถยนต์ทั่วไป ยางรันแฟลต ยางรถบรรทุก ยางรถฟอล์คลิฟท์ ยางรถโดยสาร ยางรถกอล์ฟ ยางรถตัก ยางรถไถ รวมไปถึงยางรถเกษตรต่าง ๆ จากยี่ห้อชั้นนำ ทั้งขายปลึก ขายส่งยาง โดยเรามีความเชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ และด้านการบริการซ่อมบำรุง คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับบริการและคำแนะนำอย่างน่าประทับใจจากเรา
 
 

Tel : 081 955 0826
E-Mail : chaichod999@gmail.com
Line : @chaichod

line
facebook
phone