10 รุ่นยางรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า รถ EV
10 รุ่นยางรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า รถ EV

10 รุ่นยางรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า รถ EV

10 รุ่นยางรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่น่าใช้มาฝากกัน มียี่ห้ออะไรบ้าง


ด้วยกระแสความนิยมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถ EV เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากรถไฟฟ้าที่เราเห็นตามท้องถนนจนคุ้นตากันหลายแบรนด์ มาปีนี้ เราจะเห็นแบรนด์รถบยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆ ที่ทยอยมาเปิดโชว์รูมในบ้านเรา และอาจได้เห็นผ่านตาตามท้องถนนมากยิ่งขึ้นในปีนี้แน่นอน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับรถยนต์ก็คือ ยางรถยนต์ ความคล้ายกันระหว่างยางรถ EV กับยางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป คือ สมรรถนะและประสิทธิภาพ ความนุ่ม ความสบาย แต่ทั้งยางรถ EV และยางรถยนต์ธรรมดาจะมีข้อแตกต่างกันอยู่

 

ความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและยางรถยนต์ธรรมดา

 

  1. รถ EV ไม่มีเครื่องยนต์และแทบจะไม่มีเสียงรบกวน
    สำหรับรถ EV ต้องการยางที่ลดเสียงรบกวนจากถนนให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษาความเงียบในการขับขี่ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ชดเชยเสียงในขั้นตอนการออกแบบและในขั้นตอนการผลิต เช่น เพิ่มร่องขอบล้อ ลวดลายดอกยางแบบพิเศษ หรือใช้สารประกอบเพื่อดูดซับเสียง

  2. รถ EV มีแรงบิดและกำลังส่งสูง
    สำหรับรถ EV จะมีอัตราเร่งที่แรงและกำลังส่งมากตั้งแต่เริ่มสตาร์ทรถ รถจะสามารถออกตัวไดล้เร็วและตอบสนองสมรรถนะการขับขี่ได้มากกว่า ส่วนเเรงบิดที่สูงนั่นหมายถึง การสึกหรอของยาง ฉะนั้น ยางรถ EV จำเป็นต้องมีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดี การควบคุมการเลี้ยว และการเบรกต้องแข็งแกร่ง ยางรถ EV จะได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อลดการลื่นและช่วยชดเชยแรงบิด

  3. รถ EV มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติทั่วไป
    รถ EV มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้ตัวถังรถมีน้ำหนักสูงกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งการที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำส่งผลต่อยางโดยตรง หากใช้ยางธรรมดา ยางจะสึกหรือเสื่อมเร็ว ต้องใช้ยางสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ เพราะยางประเภทนี้ถูกผลิตขึ้นให้ทนต่อน้ำหนักมากกว่ายางปกติทั่วไปถึง 10-20%

  4. ระบบเบรกของรถ EV จะใช้ระบบ Regenerative Braking
    สำหรับรถที่มีน้ำหนักสูงอย่างรถ EV รวมถึงความเฉื่อยที่เพิ่มขึ้น และระบบเบรกที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าที่สั่งการผ่านกล่องควบคุม ยางที่ใช้จึงต้องเป็นยางชนิดพิเศษที่ออกแบบมาให้ยึดเกาะถนนได้อย่างดี

  5. รถ EV ต้องการความต้านทานการหมุนที่ต่ำ เพื่อประหยังพลังงานและให้วิ่งได้ไกลขึ้น
    แรงต้านการหมุนของล้อจะส่งผลต่อการใช้เชื้อเพลิงของรถยนต์ ความต้านทานการหมุนที่ต่ำจะทำให้สูญเสียพลังงานน้อยลง เพื่อให้รถปล่อยมลพิษน้อยลง ประหยัดพลังงานมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อได้ทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ทั่วไปกับยางรถ EV กันไปแล้ว ต่อจากนี้ จะเป็นยางรถ EV แต่ละแบรนด์ว่า มีของอะไรบ้างและมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร

 

   ADD LINE สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม     CLICK เพื่อดูสินค้าเพิ่มเติม


10 รุ่นยางรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้

 

  1. ยาง Bridgestone Turanza Eco
    ยางบริดจสโตนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในยางรถยนต์สำหรับรถ EV รุ่นแรกของ Volkswagen รุ่น ID.3 ซึ่งเป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ ความพิเศษของยางรุ่นนี้ ใช้เทคโนโลยี Enliten ที่ทำให้ยางรถยนต์มีน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของบริดจสโตนที่มีบทบาทในการลดแรงต้านการหมุนของล้อได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับยางรถยนต์เกรดพรีเมี่ยมทั่วไป ใช้วัสดุในการผลิตยางน้อยลง ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ทำให้ใช้ได้อย่างยาวนาน

  2. ยางกู๊ดเยียร์ อีเกิล ทัวริ่ง
    ยางรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีความนุ่มเงียบเป็นพิเศษ ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกและยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากการขับขี่ ในด้านการยึดเกาะถนนถือว่ายางกู๊ดเยียร์ อีเกิล ทัวริ่งทำได้ดี ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการเบรกให้ดียิ่งขึ้น ดูแลรักษาง่าย ตัวยางสึกหรอช้าทำให้ใช้งานได้นาน

  3. ยางมิชลิน Pilot Sport EV
    ยางมิชลินรุ่น Pilot Sport EV ผลิตและออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีการปรับให้เข้ากับการควบคุมและลักษณะเฉพาะของรถสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นพิเศษ ด้วยความที่รถไฟฟ้าจะมีน้ำหนักที่มากกว่ารถปกติ ทำให้เกิดความท้าทายสำหรับยาง เนื่องจากระบบโมดูลแบตเตอรี่มักจะอยู่ที่ตัวรถส่งผลให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำและมีผลต่อยาง ความพิเศษของดอกยางและสารประกอบยางในยางมิชลิน รุ่นนี้ ออกแบบสำหรับแรงบิดสูงและแรงเร่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย คุณสมบัติที่เรียกว่า ElectricGrip Compound ที่ใช้สารประกอบยางที่มีความแข็งตรงกลางดอกยาง ทำให้ยึดเกาะถนนได้อย่างดีเหมาะกับการวิ่งทั้งในสภาพถนนแห้งและถนนเปียก มีเสียงรบกวนห้องโดยสารที่ต่ำ ด้วยโฟมโพลียูรีเทนที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เรียกว่า มิชลินอคูสติก ยางรุ่นนี้ออกวางขายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

  4. ยางกู๊ดเยียร์ Eagle F1 Asymmetric
    มีประสิทธิภาพด้านการยึดเกาะถนน และด้วยคุณสมบัติหลักของยางรุ่นนี้ที่มีในเรื่องของความทนทาน การบังคับล้อ การเบรก จึงนับว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยส่วนผสมของ Grip Boost Compound ทำให้ขับขี่ปลอดภัยในทุกสภาพถนนไม่ว่าจะถนนเปียกหรือแห้ง รับประกันความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าจะมาด้วยความเร็วก็ตาม นอกจากนี้ ยังทนต่อน้ำหนักของรถ EV ได้เป็นอย่างดี แรงต้านทานการหมุนล้อต่ำ ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  5. ยางฮันคุก Ventus V12 EVo2
    สำหรับความทนทานและความเร็วสูงต้องยกให้ยางฮันคุก รุ่น ​Ventus V12 EVo2 ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม รวมไปถึงการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยี Triple TR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโปรไฟล์รถแข่งในรายการ DTM ทำให้มั่นใจในขณะขัยขี่ด้วยความเร็วสูง แก้มยางมีความหนา มั่นใจทุกการขับขี่ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง ช่วยป้องกันการเหินน้ำขณะขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำขังหรือขับขี่ในหน้าฝน ลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร

  6. ยางโยโกฮาม่า BluEarth Winter V905
    สำหรับรถไฟฟ้า ในการเลือกยางอาจต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ การยึดเกาะถนนเป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยี BluEarth ช่วยส่งเสริมแรงต้านการหมุนต่ำ ช่วยลดการใช้พลังงานของรถ EV ทำให้ขับได้ไกลขึ้น ช่วยประหยัดพลังงานเเบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น

  7. ยางไฟร์สโตน WinterForce 2
    ยางรุ่นนี้จะมีจำหน่ายเฉพาะขอบล้อ 14-18 มีความยึดเกาะถนนที่ดี ดอกยางมีความลึกและโครงสร้างมีการเสริมความแข็งแรง โครงโพลีเอสเตอร์และโครงสร้างสายพานเหล็กคู่ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความสบายในการขับขี่ ช่วยลดการสั่นสะเทือนแม้ขับผ่านสภาพถนนขรุขระ ความเสถียรของดอกยางช่วยให้การขับขี่เงียบ คุ้มค่ากับการลงทุน

  8. ยาง Pirelli P Zero HL
    ยางรุ่นนี้เริ่มใช้ครั้งแรกกับรถไฟฟ้า LUCID รุ่น Lucid Air คุณสมบัติยาง HL หรือ High Load ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่ายางปกติถึง 20% และมีประสิทธิภาพดีกว่ายางรุ่นรองรับน้ำหนักที่มีอักษร XL ในซีรี่ส์เดียวกัน 6-9% แต่คงสมรรถนะและความบางของแก้มยางไว้เหมือนเดิม มีแรงต้านการหมุนของล้อต่ำ ช่วยเพิ่มระยะในการขับขี่ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าเกินราคา

  9. ยางคอนติเนนทอล เอจี ContieContact
    ยางรถยนต์สัญชาติเยอรมัน รุ่นที่เป็นยางสำหรับรถ EV จะเป็นรุ่น ContieContact ที่ผลิตมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีแรงต้านการหมุนที่ต่ำทำให้ขับขี่ได้ไกลขึ้น ประสิทธิภาพในการเบรกดีเยี่ยม ความพิเศษคือการออกแบบหลักอากาศพลศาสตร์หรือ Aerodynamic Design ช่วยลดแรงต้าน ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น

  10. ยางมิชลิน Energy Saver A/S
    ยางมิชลิน nergy Saver ตัวยางมีความต้านการหมุนต่ำ มีการผสมผสานสารประกอบพิเศษเข้ากับการออกแบบดอกยางที่ช่วยให้ยางเย็นลง ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกที่จะเข้ามาที่ห้องโดยสาร และยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อต้องขับบนถนนที่ขรุขระ

 

และทั้งหมดนี้ก็เป็นยางรถยนต์สำหรับรถพลังงานไฟฟ้าทั้ง 10 รุ่นที่น่าเลือกมาใช้งาน หากคุณผู้อ่านกำลังมีแผนที่จะซื้อรถ EV หวังว่าบทความจะช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อยางให้เหมาะกับรถของคุณ

 

แต่หากไม่มั่นใจในการเลือกซื้อจริงๆ อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ สามารถปรึกษา ชัยโชติรวมยาง ได้ เพราะนอกจากเราจะเป็นตัวแทนจำหน่ายยางทุกรุ่น หลากหลายยี่ห้อแล้ว เรายังมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกท่านในการเลือกซื้อยางให้เหมาะกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในราคาที่สมเหตุสมผล หากสนใจยางรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ยางรถบรรทุก ยางประหยัดน้ำมัน ยางรถมอเตอร์ไซด์ ยางรถกระบะ ฯลฯ สามารถเช้าไปเช็คราคาก่อนได้ที่ www.chaichod.com หรือแอดไลน์มาสอบถาม ปรึกษากับเราก่อนได้ที่ Line : @chaichod

 

Tel: 081 955 0826
E-Mail : chaichod999@gmail.com
Line : @chaichod

line
facebook
phone