รู้หรือไม่ยางรถตัก และ ยางรถเทรกเตอร์มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน
รู้หรือไม่ยางรถตัก และ ยางรถเทรกเตอร์มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน

 

รู้หรือไม่ยางรถตัก และ ยางรถเทรกเตอร์
มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน

ความแตกต่างของยางรถตัก และยางรถแทรกเตอร์

 

     หาเปรียบเทียบการเกษตรสมัยก่อนและปัจจุบัน ซึ่งแต่ต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือแม้แต่นวัตกรรมการช่วยเหลือทางการเกษตรของปีที่แล้วและปีนี้ยังต่างกันเลย นับตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid - 19 เข้ามาก็ทำให้การส่งออกของสินค้าประเภทการเกษตรลดลง กำลังการผลิตก็ต้องลดถอยลงเช่นกัน แต่ข่าวดี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีข่าวมาว่า GDP เกษตรฟื้นตัว ไตรมาสแรก เติบโต 1.4% ทั้งปีอาจจะขยายทุกสาขาโตไปจนถึง 1.7-2.7%

 

     ทำให้ช่วงนี้ชาวเกษตรกรหลายๆ คนหันมามองหาสิ่งอำนวยความสะดวก ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเป็นจำนวนมาก เพราะสถานการณ์เริ่มจะกลับมาดีขึ้นในไม่ช้า จึงเป็นเหตุให้ชาวเกษตรกรรีบที่จะหาพาหนะใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการผลิต ซึ่งรถไถ รถแทรคเตอร์ หรือรถที่นำมาใช้ในการเกษตร เก็บเกี่ยวเร็วขึ้น ก็คือวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับภาคการเกษตรและอุสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย หนึ่งในลักษณะสำคัญของอุตสาหกรรมการเกษตรคือความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นดิน พืช คนขับ เครื่องจักร วิธีการเพาะปลูก สภาพภูมิอากาศ ดังนั้นการที่คุณจะเลือก รถทางการเกษตร ควรต้องคำนึงถึงข้อสำคัญคือ วัตถุประสงค์ที่คุณจะใช้ กำลังของรถ รูปแบบของการใช้ล้อยาง การรักษาล้อยาง ยางแต่ละประเภทก็จะออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ยางที่ดีได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานและเครื่องจักรทุกประเภท พัฒนายางอย่างครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้ทำงานอย่างสะดวกสบายมากที่สุด
 
 

รถแทรกเตอร์

     คือ ยานพาหนะ ที่ขับเคลื่อนเพื่อทำหน้าที่ไถ พรวนดิน ลากจูงเครื่องมือ ประโยชน์ในการเกษตร เช่น เปิดหน้าดินด้วย ไถกระทะ ปราบดิบ หรือ ลากจูงเทรลเลอร์ในพื้นที่เกษตร ที่ยานพาหนะอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งต้องอาศัยรถแทรกเตอร์ทั้งหมด และสามารถใช้ในภาคเกษตร การทำเหมือง การทำถนน หรือการพัฒนาที่ดิน และพื้นที่ที่เข้าถึงด้วยรถยนต์ทั่วไปไม่ได้ หรือบางครั้งสามารถใช้ในโรงงานอุสาหกรรมบางอย่างได้ หรือในโรงสีผลิตผลเกษตรเราก็มักได้เห็นรถแทรกเตอร์ได้ด้วยเช่นกัน
 

รถแทรกเตอร์แบ่งเป็นกี่ประเภท?

แบ่งประเภทของรถแทรกเตอร์ออกเป็น 2ประเภทใหญ่ๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยแบ่งตามการใช้งาน คือ
 
  1. รถแทรกเตอร์ขับเคลื่อน 2 ล้อ
  2. รถแทรกเตอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ซึ่งรถแทรกเตอร์แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็คือการส่งกำลังขับจากเครื่องยนต์มาที่ 2 ล้อหลัง และรถแทรกเตอร์แบบขับเคลื่อน 4ล้อ เครื่องยนต์ต้นกำลังจะขับกำลังไปทั้ง 4 ล้อ
 

ประเภทยางดอกยางที่ใช้กับรถไถ หรือยางรถแทรกเตอร์

     มีลักษณะเป็นแบบก้างปลา คือลักษณะสานไขว้ไปมา ออกแบบมาสำหรับใช้ทำไร่ไถนา ทำสวนปาล์ม โดยแบ่งดอกยางออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทใส่ความพิเศษลงไปต่างกัน

 

ประเภทดอกยางลึก มีขนาดดอกยางสูงมากและหนา ดอกยางลึกเหมาะสำหรับการทำนาแบบโคลนลึก เพราะตัวดอกยางที่ลึกจะทำหน้าที่ออกแรงกรุยโคลน ขณะติดหล่มโคลนก็เกิดแรงสะบัดได้ดี ซึ่งไม่เหมาะสำหรับใช้บนพื้นไร่นา ดินแห้งแข็ง

 

ประเภทดอกยางตื้น ตามแนวถนนต่างจังหวัด จะพบชาวไร่ชาวสวนนำรถไถประเภทยางแบบตื้นมาวิ่งบนท้องถนน ยางรถไถแบบดอกยางตื้น ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับพื้นนาที่เป็นโคลนสูง แต่มีแรงกรุยโคลนได้ดีเช่นเดียวกัน เหมาะกับการปรับหน้าดิน พรวนดิน
 
 
รถแทรกเตอร์ขับเคลื่อน 2ล้อ ได้ถูกออกแบบและพัฒนาต่อยอดและอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้ใช้งานกันอย่างสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพที่สุด

รถแทรกเตอร์แบบขับเคลื่อน 2 ล้อสามารแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ

• Standard Tread
• Row Crop
• High Clearance
• Low Profile

ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีความสามารถและลักษณะโดดเด่นที่แตกต่างกัน เหมาะกับพื้นที่การเกษตรที่แตกต่างกันไป

 

รถแทรกเตอร์แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ดีเซลล์ต้นกำลังมาที่ 4ล้อ เหมาะสมพื้นที่การเกษตรที่อ่อนนุ่ม หรือมีเลนมาก อาจจะทำให้รถติดหล่มได้ ดังนั้นการเลือกรถแทรกเตอร์แบบขับเคลื่อน 4ล้อนี้ สามารถช่วยให้เข้าถึง และขับเคลื่อนทำงานไปยังพื้นที่เปียกชุ่ม หรือพื้นที่ที่มีวัชพืชมากทำให้การขับเคลื่อนรถ
 

ประเภทของรถตัก

     รถตัก ส่วนใหญ่แล้วเราอาจจะพบเห็นการใช้งานในงานเหมือง งานก่อสร้าง รวมถึงเกษตรกรรม เนื่องจากขนาดพอเหมาะพอดี เคลื่อนตัวคล่องแคล่ว สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหลายรูปแบบ
 
  • รถตักเทหน้าชนิดตีนตะขาบ (Track-type front-end-loader) เป็นรถตักที่นิยมใช้กับงานลักษณะที่เป็นพื้นหล่ม โคลน หรือมีหินแข็งคมมาก หรือพื้นที่เป็นที่ลาด

  • รถตักเทหน้าชนิดล้อยาง (Rubber-tired- front-end-loader) เป็นรถตักที่ใช้กับงานที่มีลักษณะเป็นพื้นราบ แข็ง ไม่เป็นหล่มโคลน และมีหินแข็งคมน้อยใน

 

 

ยางรถตัก

     การเลือกยางให้เหมาะสม ช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายการดูแล ประเภทของยางจะมี 2 ชนิด คือ ยางเรเดียลและยางผ้าใบ ส่วนความต่างนั้น ยางเรเดียลจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่า แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการตักได้ดี เนื่องจากให้แรงฉุดที่ดีและมีน้ำหนักเบากว่ายาผ้าใบ จึงมีส่วนช่วยประค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้า เป็นยางผ้าใบจะมีการสะสมความร้อน เสี่ยงยางระเบิดได้เสี่ยงอันตรายกับผู้ใช้งานและเพิ่มค่าใช้จ่ายการดูแลมาก เพราะยางมีอายุการใช้งานสั้น
 

ชนิดของดอกยางรถตัก

 

ดอกยาง L2 : จะให้แรงฉุดสูงและความสามารถในการสะบัดเศษหิน ดิน ทรายได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ดินโคลน หรือพื้นที่อ่อนนุ่ม

 

ดอกยาง L3 : มีความทนทานต่อหิน กรวด เหมาะกับใช้งานบนพื้นผิวขรุะขระและมีอุปสรรคมากว่าการใช้งานรถตักทั่วไป

 

ดอกยางชนิด L4 และ L5 : จะมีราคาแพงกว่าดอกยางชนิดอื่น แต่เมื่อเราคำนวณค่าใช้จ่ายในการใช้งานจริง หากมีการใช้งานตลอดทั้งวัน และต้องการลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยาง

 

     โดยปกติแล้วยางทั่วไป จะมีอายุการใช้งานอยู่ช่วง 2,000 และ 3,500 ชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้ใช้งานการบำรุงรักษา และการเลือกใช้ยางให้เหมาะกับสภาพภูมิประเทศ ควรมั่นตรวจเช็กความดันลมยาง เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์

 

     เมื่อถ้าคุณอ่านมาถึงจุดนี้แล้วไม่แน่ใจว่าต้องเลือกยางรถยนต์ หรือ ยางรถเกษตร ก็ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้ข้อมูลซัพพอร์ตช่วยเหลือให้คุณได้ยางรถเกษตรที่ถูกใจ เหมาะสมกับการใช้งานอย่างแท้จริง

 

      บริษัท ชัยโชติรวมยาง จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ขายส่งยางรถทุกประเภททั้งแบรนด์ไทย-และยางนำเข้า เราพร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ ทั้งร้านขายส่งยางรถยนต์ ร้านขายส่งยางรถบรรทุก ทั้งร้านขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น ยางรถยนต์ทั่วไป ยางรันแฟลต ยางรถบรรทุก ยางรถฟอล์คลิฟท์ ยางรถโดยสาร ยางรถกอล์ฟ ยางรถตัก ยางรถไถ รวมไปถึงยางรถเกษตรต่าง ๆ จากยี่ห้อชั้นนำ ทั้งขายปลึก ขายส่งยาง โดยเรามีความเชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ และด้านการบริการซ่อมบำรุง คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับบริการและคำแนะนำอย่างน่าประทับใจจากเรา



Tel : 081 955 0826
E-Mail : chaichod999@gmail.com
Line : @chaichod

line
facebook
phone