เผยเทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์ แบบ ชัดเจน เห็นภาพ
คนมีรถต้องรู้ 7 เทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์
หากพูดถึงเรื่องราวหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ แน่นอนว่าองค์ประกอบทุกๆส่วนของรถยนต์นั้นมีความสำคัญอย่างมากเพราะถ้าหาก มีองค์ประกอบใดเสียหายชำรุดไป จะส่งผลให้สมรรถนะการใช้รถนั้นแย่ลง และ ยางรถยนต์ ก็คือ องค์ประกอบส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้สมรรถนะการขับเคลื่อนของรถไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งการเลือกใช้ยางรถยนต์นั้นต้องเลือกให้เหมาะสมกับประเภทรถและสไตล์การขับขี่ของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น ยางรถยนต์แนวรถสปอร์ต ยางรถยนต์แนวรถออโรด เป็นต้น สำหรับคนที่เซียนเรื่องรถหรือเป็นนักแต่งตัวตัวยง จะทราบดีว่า การเลือกยางรถยนต์นั้น สามารถดูค่าที่บนขอบยางรถยนต์ได้ แต่สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์มีความจำเป็นมากแค่ไหนและอ่านไปเพื่ออะไร บทความนี้มีคำตอบให้พร้อมแชร์เทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์ จะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
เทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์
รู้หรือไม่ว่า ที่ขอบยางรถยนต์ จะมีอักษรและตัวเลขที่ปรากฏอยู่บริเวณแก้มยางรถยนต์เสมอ ซึ่งตัวเลขและตัวอักษรเหล่านั้น ล้วนแต่มีความหมาย เพราะบ่งบอกถึงขนาดยางรถยนต์ ขอบเขตในการใช้งาน โดยมีวิธีการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์ เราขอแชร์เทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์ให้ทุกคนเห็นภาพกันชัดๆ ดังต่อไปนี้
ยกตัวอย่างจากรหัส : P205/55R16 91S
- ตัวอักษร P
ที่ปรากฏอยู่บนขอบยางรถยนต์นั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะยางรถยนต์แบบทั่วไป รวมไปถึงยางรถตู้ขยาดเล็ก แต่สำหรับยางรถยนต์ที่ตัวอักษรขึ้นต้นด้วยตัว T ซึ่งมีชื่อย่องมาจากคำว่า Temporaray ที่แปลว่า “ชั่วคราว” หมายถึงยางอะไหล่นั่นเอง - ตัวเลข 205
คือ ขนาดความกว้างของหน้ายางรถยนต์ มีหน่วยเป็นมิลิเมตร ซึ่งโดยปกติแล้วจะวัดจากแก้มยางรถยนต์ด้านหนึ่งไปสู่อีกด้าน โดยไม่รวมความสูงของตัวหนังสือ สัญลักษณ์ หรือส่วนต่าง ๆ ที่ยื่นออกมาจากแก้มยางรถยนต์ ดังนั้น ตัวเลข 205 มีความหมายว่า ยางรถยนต์มีขนาดกว้างของหน้ายางรถยนต์ 205 มิลิเมตร นั่นเอง
- ตัวเลข 55
คือ ความสูงของแก้มยางรถยนต์ หรือ “อัตราส่วนขนาดล้อรถ” หรือที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในชื่อเรียกว่า “ซีรีส์ยาง” มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยปกติแล้วจะวัดจากอัตราส่วนระหว่างความสูง และความกว้างของยางรถยนต์ เช่น 55% ของ 205 มิลลิเมตร ดังนั้น ตัวเลข 55 มีความหมายว่า ยางรถยนต์มีขนาดความสูง 55% นั่นเอง - R คือ
ชนิดของยางรถยนต์ หรือ โครงสร้างภายในยางรถยนต์ ซึ่งยางรถยนต์มีโครงสร้างภายใน ด้วยกัน 2 รูปแบบได้แก่
- Radial ( R ) คือ ยางรถยนต์ที่มีโครงสร้างเป็นผ้าใบ และเส้นลวดพันอยู่รอบยางในมุมทแยงกับเส้นรอบวง
- Diagonal or Bias Ply ( D ) คือ ยางรถยนต์ที่นำผ้าใบมาเรียงซ้อนกันแบบเฉียงไปมาหลายชิ้น
ดังนั้น อักษร R มีความหมายว่า ยางรถยนต์เส้นนี้มีโครงสร้างภายใน เป็น Radial นั้นเอง ซึ่งปัจจุบันยางรถยนต์แทบทั้งหมด จะนิยมใช้โครงสร้างภายในยางรถยนต์ เป็นแบบ Radial ( R )
- Radial ( R ) คือ ยางรถยนต์ที่มีโครงสร้างเป็นผ้าใบ และเส้นลวดพันอยู่รอบยางในมุมทแยงกับเส้นรอบวง
- ตัวเลข 16
คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในชื่อว่า ยางขอบ ดังนั้น ตัวเลข 16 มีความหมายว่า ยางรถยนต์ ขอบ 16 นิ้ว เหมาะสำหรับใส่กับล้อรถยนต์ที่ขนาด 16 นิ้ว เป็นต้น - ตัวเลข 91
คือ ความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของยางรถยนต์ หรือเรียกว่าดัชนีการรับน้ำหนัก ซึ่งตัวเลข 91 ไม่ได้แสดงถึงน้ำหนักกี่กิโลกรัมที่สามารถรองรับได้ แต่ตัวเลข 91 แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีรับน้ำหนักกับความสามารถในการรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น ซึ่งปกติแล้วตัวเลขตำแหน่งนี้จะเริ่มต้นที่ 60-179 แสดงถึงความสามารถในการรับน้ำหนัก ได้ตั้งแต่ 250 ถึง 7,750 กิโลกรัม - อักษร S
คือ ดัชนีระบุความเร็วยางรถยนต์ ซึ่งตัวเลขบนยางรถยนต์ตัวสุดท้ายมีหลายตัวอักษร ซึ่ง แต่ละตัวอักษรก็มีความสามารถในด้านการใช้ความเร็วในการขับขี่ได้สูงสุดต่อกิโลเมตรที่แตกต่างกันไป เช่น- S สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- T สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- H สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- V สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- W สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- Y สามารถรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- Z สามารถรองรับความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และสำหรับยางรถยนต์ที่มีดัชนีความเร็วสูง แน่นอนจะมีความสามารถในการ ยึดเกาะถนน ได้ดีกว่า หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ ควรใช้ยางรถยนต์ที่มีดัชนีความเร็วเท่าเดิมหรือสูงกว่า เพื่อ รักษาความสามารถ ในการทำความเร็วของรถยนต์ แต่ถ้าหากใช้ยางรถยนต์ที่มีค่าดัชนีรถยนต์ไม่เท่ากัน แนะนำให้ยึด ค่าต่ำที่สุด เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
และทั้งหมดนี้ คือเทคนิคการอ่านค่าบนขอบยางรถยนต์ในแบบฉบับที่เข้าใจง่าย เพื่อเป็นข้อมูลดีๆให้กับคนที่กำลังจะเปลี่ยนยางรถยนต์ เพราะ ทุกตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนขอบยางรถยนต์นั้นล้วนมีความหมายทั้งหมด และที่สำคัญ บางรถยนต์นั้นมีระยะเวลาการใช้งานที่จำกัด ซึ่งผู้ใช้รถทุกคนควรใส่ใจ ตรวจเช็คดูบาดแผล และเติมลมยางอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ
หากคุณกำลังมองหายางรถยนต์ที่มีคุณภาพ นึกถึงเรา บริษัท ชัยโชติรวมยาง จำกัด ตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ มีทั้งยางขายส่ง ยางขายปลีก หลากหลายยี่ห้อ เช่น ยางบริสโตน, ยางโยโกฮาม่า, ยางกู๊ดเยียร์ และยางฮันคุก และเรายังมี โรงงานผลิตยางรถยนต์ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าทุกท่านจะได้รับการดูแลบริการก่อน-หลังการขายที่ดีที่สุด เพราะเรามีบริการครบจบในที่เดียว เพียงไว้ใจเรา ชัยโชติรวมยาง พร้อมส่งมอบยางรถยนต์ที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นมิตรอย่างแน่นอน